Share

บทที่ 4 พี่เป้า   

พอเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหลี่เฟิง ฉินชิงก็อดไม่ได้ที่จะลังเล พอคิดถึงสถานการณ์ในบ้านตอนนี้ จึงกัดฟันลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คุณปู่ หนูรัรบปากว่าจะไปทวงหนี้ให้"

"แก! เจ้าเด็กโง่แกบ้าไปแล้วเรอะ! ถ้าแกไปถูกพี่เป้านั่นทำให้เสียโฉมขึ้นมาล่ะ คุณชายโจวเขาจะไม่เอาแกด้วยนะ!"

หลิ่วฮุ่ยฟางลุกพรวดพราดอย่างร้อนรน

คนทั้งหมดตกตะลึง กระทั่งผู้เฒ่าฉินเองก็ยังไม่คิดว่าฉินชิงจะรับปาก

พวกฉินไห่กลับหัวเราะเย็นชาขึ้นมา

และฉินไห่ก็ควักเงินออกมาห้าหยวนจากในกระเป๋า โยนไปที่เท้าของฉินชิง "เห็นแก่คว้ากล้าหาญของแก ห้าหยวนนี้เอาไปเป็นค่ารถประจำทางก็แล้วกัน"

ฉินหลันสองมือกอดอก เลิกคิ้วเอ่ยขึ้นว่า "นี่เป็นเรื่องที่แกขันอาสาไปทำเองนะ ถึงตอนนั้นถูกเล่นงานมาก็อย่าพูดว่าตระกูลฉินของพวกเราบีบบังคับแกไปเสียล่ะ"

หลี่เฟิงกวาดสายตาเย็นผ่านคนเหล่านี้ ไม่อยากที่จะสนใจ ก็แค่พวกตัวตลกมาเต้นเหยงๆ กลุ่มหนึ่งเท่านั้น

จึงจูงมือของฉินชิงเดินออกจากบ้านพักตากอากาศไป

สองสามีภรรยาหลิ่วฮุ่ยฟาง ตอนนี้ก็ลนลานเหมือนมดในหม้อร้อน หลิ่วฮุ่ยฟางเอ่ยขึ้นว่า "ตอนนี้ทำได้แค่ให้คุณชายโจวช่วยเหลือแล้ว คุณชายโจวชอบเสี่ยวฉินมาตลอด..."

……

ตลาดซื้อขายรถยนต์

ฉินชิงหิ้วผลไม้ที่ซื้อมาสองตะกร้า กำชับหลี่เฟิงที่อยู่ข้างๆ "อีกเดี๋ยวเธอพูดน้อยหน่อยนะ อย่าไปยั่วให้พี่เป้าเขาโมโหล่ะเข้าใจไหม"

หลี่เฟิงพอได้ยินก็พยักหน้า ฉินชิงถึงดูวางใจลงมาหน่อย

ขณะที่ทั้งสองคนเตรียมจะเคาะประตูสำนักงานของพี่เป้า ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมา

มีรถพอร์ชสีชมพูคันหนึ่งมาจอดข้างคนทั้งสอง ลดกระจกลง เผยให้เห็นใบหน้าใจดำของฉินหลัน

"โย่ว พวกแกทั้งสองคนหล้ามาทวงหนี้จริงๆ ด้วย ชั้นคิดว่าพวกแกจะขี้โม้ไปเรียนเสียอีก"

"ฉินหลัน เธอมาที่นี่ทำไม?"

ฉินชิงขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน

"ก็ต้องมาซื้อรถน่ะสิ เหมือนคนที่จะมาทวงหนี้แล้วถูกอัดเป็นขยะแบบพวกแกสองคนหรือไง?"

ฉินหลันสวมแว่นตาดำ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ปิดบังความหยิ่งทะนงไว้ไม่ได้ "พอพวกแกออกไป คุณปู่ก็จัดสรรปันผลกำไรให้ทุกคน ครอบครัวชั้นปีนี้ได้มาสองล้านหยวน พอมีเงินก้อนนี้ ชั้นก็ต้องมาซื้อรถหรูๆ เป็นของขวัญวันเกิดสิ ไม่เหมือนแกหรอก วันเกิดทุกปีจะกินร้านอาหารริมทางดีดีสักมื้อก็ยังกินไม่ได้..."

พอได้ยินคำนี้ ฉินชิงก็กำหมัด สั่นระริกไปทั้งตัว

หลี่เฟิงยกมุมปาก ยิ้มเย็นชาเอ่ยขึ้นว่า "ฉินหลัน ก็แค่สองล้านหยวนเท่านั้นเอง มีอะไรน่าภูมิใจนัก เทียนเฟิงกรุ๊ปรังเกียจที่สุดก็คือคนที่อวดดีกับเศษเงินแบบเธอนี่ล่ะ เรื่องลงทุนอะไรนั่นเธอเลิกคิดไปได้เลย"

"แก!"

ฉินหลันโมโหทันที ร้องเฮอะขึ้น "คนบ้าแบบแก ตอนนี้พูดดีไปเถอะ หวังว่าตอนทวงหนี้จะกล้าแบบนี้นะ"

พูดจบ ฉินหลันก็เปิดประตูลงจากรถ เดินนวยนาดเข้าไปในสำนักงาน

ฉินชิงทั้งสองคนก็รีบเดินตามไป

พอเข้าประตู ก็เห็นกับสำนักงานที่กว้างขวาง ชายหนุ่มที่สวมโซ่ทองกำลังโอบเซลล์สาวสวยคนหนึ่งอยู่ รอยแผลเป็นบนใบหน้าทำเอาคนขวัญหนีดีฝ่อ

พอเห็นมีคนเข้ามา พี่เป้าก็หน้าขรึม ตะคอกขึ้นว่า "คนจรจัดจากที่ไหนกัน รีบไสหัวออกไปเลย อย่ามารบกวนความสำราญของข้า"

ชื่อเสียงอิทธิพลของคนนี่สำคัญจริงๆ

คำพูดของพี่เป้าทำเอาฉินหลันเหงื่อแตก เธอเอ่ยขึ้นแบบตะกุกตะกักว่า

"พี่...พี่เป้า ชั้นคือฉินหลัน คุณชายฟางแนะนำให้เข้ามาซื้อรถกับพี่"

พอได้ยินคำนี้ พี่เป้าก็เลิกคิ้ว บนหน้ามีรอยยิ้ม "พี่แท้ก็คุณหนูฉินหลันนี่เอง เชิญนั่งก่อน"

ก่อนหน้านี้ ฟางจื่อหานโทรหาเขาแล้วจริงๆ ตระกูลฟางตระกูลระดับหนึ่งเอ่ยปากทั้งที เขาก็ต้องให้หน้าหน่อยสิ

ขอแค่เป็นผู้ใช้งานรถหรู เขาจะออกมาต้อนรับด้วยตนเอง นี่เป็นหนึ่งในวิธีตะล่อมพวกผู้ดีมีเงินอย่างหนึ่งของเขา

"แล้วสองคนนี้คือ?"

พี่เป้าหันไปสนใจสองคนที่ประตู ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

พอเห็นท่าทีเปลี่ยนหน้ามีเป็นหลังมือของพี่เป้า ในใจฉินหลันก็อดเบิกบานขึ้นมาไม่ได้ จึงเห็นเธอเอ่ยขึ้นราวกับกำลังได้ความดีความชอบ

"พี่เป้า คุณยังจำหนี้ของตระกูลฉินก้อนนั้นได้ไหม เจ้าขยะสองคนนี้จะเข้ามาทวงน่ะ!"

"แต่คุณวางใจเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับชั้น ชั้นแค่มาซื้อรถเท่านั้น"

"อย่างนี้นี่เอง"

พอได้ยินคำนี้ พี่เป้าก็พยักหน้า เอนตัวพิงไปด้านหลัง หางตาอำมหิตจ้องเขม็งไปที่ฉินชิงทั้งสองคน "คิดไม่ถึงเลย ว่าจะมีพวกสิ้นคิดมาทวงหนี้ถึงตลาดซื้อขายรถยนต์ สงสัยจะเบื่อชีวิตขึ้นมาแล้วสินะ"

ถูกสายตาเย็นเยียบของพี่เป้ากวาดมาแบบนี้ ฉินชิงอดหดตัวไปข้างหลังไม่ได้ "พี่เป้า คุณเป็นคนใหญ่โตก็มีความใจกว้างอย่างคนใหญ่โต หนีก้อนนี้พวกเราต้องการมาก..."

"ไม่เช่นนั้น ครอบครัวของพวกเราก็จะอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว"

"เฮอะ ครอบครัวพวกแกอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า"

พี่เป้าร้องเชอะ เสียดสีขึ้นว่า "ในอาณาเขตตลาดซื้อขายรถยนต์แห่งนี้ ต่อให้ผู้มีอำนาจแค่ไหนเข้ามา ข้าบอกว่าไม่คืนก็คือไม่คืน พวกแกจะทำอะไรข้าได้?"

ฉินชิงยิ้มอย่างขมขื่น ในสายตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

ตอนนี้เอง เสียงของหลี่เฟิงก็ดังแว่วขึ้นมา

"ตลาดซื้อขายรถยนต์นี้เสิ่นเป้าอย่างแกเป็นคนตัดสินใจได้ทุกอย่างตั้งแต่เมื่อไรกัน?"

พี่เป้าที่ชื่อจริงชื่อว่าเสิ่นเป้า พอได้ยินก็ตกตะลึงไป

ปากของเขามีรอยยิ้มเย็นชา เอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน "ไอ้เด็กน้อย แกรู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไร!"

ฉินหลันตะคอกใส่หลี่เฟิงขึ้นมา "แกไอ้คนบ้า ตลาดซื้อขายรถยนต์ก็ต้องเป็นพี่เป้าตัดสินใจสิ! ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษพี่เป้าอีก!"

ฉินชิงหน้าขาวซีด รีบดึงแขนเสื้อหลี่เฟิง เป็นสัญญาณไม่ให้เขาพูดอะไรอีก

แต่ว่าหลี่เฟิงกลับไม่กลัวแม้แต่น้อย เอ่ยต่อว่า "หรือว่าชั้นพูดอะไรผิด? ตลาดซื้อขายรถยนต์นี้น่าจะเป็นกิจการของเสิ่นซานสินะ ส่วนแกน่ะ มันก็แค่สุนัขเฝ้าบ้านเท่านั้น"

ระหว่างทางที่มา ข้อมูลของเสิ่นเป้าส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือหลี่เฟิงหมดแล้ว เขาเป็นแค่ลูกน้องของเสิ่นซานเท่านั้น และเสิ่นซานกลับเคยเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของเซวียจั้นหลง

พอได้ยินคำนี้ หน้าผากพี่เป้าก็มีเส้นเลือดปูด แต่ยังระงับความโกรธในใจไว้ ขมวดคิ้วถามขึ้นว่า "แกรู้จักคุณชายสามด้วยหรือ?"

"ไม่รู้จัก" หลี่เฟิงตอบเสียงเรียบ เสิ่นซานยังไม่มีคุณสมบัติพอให้เขาไปทำความรู้จักด้วย

"ไม่รู้จัก?" บนหน้าพี่เป้ามีความเหี้ยมเกรียมลอยขึ้นมา คำรามเสียงต่ำ "ไอ้เด็กน้อย มาล้อข้าเล่นหรือ?"

ตอนนี้เอง ฉินหลันก็เตือนขึ้นมาอย่างไม่หวังดี "พี่เป้า เขาจะไปรู้จักคุณชายสามได้อย่างไร เขาชื่อว่าหลี่เฟิง ก็แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านไม่ได้เรื่องคนหนึ่งจากตระกูลฉินของพวกเราเท่านั้น"

ลูกเขยแต่งเข้าบ้าน?!

พี่เป้าถลึงสองตาโต งงงันอยู่พักหนึ่ง

วินาทีต่อมา พี่เป้าก็ราวกับโดนหยามหมิ่นอย่างรุนแรง ระเบิดโทสะออกมา

กำปั้นของพี่เป้ากำแน่นจนลั่นเสียง ดวงตาถลึงโตเหมือนกระดิ่งจ้องเขม็งไปทางหลี่เฟิง

"ดี!ดี!ดีมาก!"

พี่เป้าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เอ่ยขึ้นมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ "หลายปีแล้ว ที่ไม่มีใครกล้ามาเล่นลิ้นกับข้าแบบนี้!"

พอเห็นพี่เป้าเดือดดาล ฉินหลันก็อดปิดปากแอบขำไม่ได้ ในใจก็คิด รอความตายไปเถอะ เจ้าบ้า

"พี่เป้า พี่เป้า คุณอย่าเพิ่งโกรธ..."

ฉินชิงร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูก รีบร้อนเตือนขึ้นว่า "หลี่เฟิงแค่พูดขึ้นอย่างไม่ระวังเท่านั้น คุณอย่าเพิ่งคิดไป..."

น่าเสียดาย พี่เป้าฟังไม่เข้าหูแล้ว โบกมือใหญ่วาดเข้ามา

อย่างรวดเร็ว สมุนนับสิบคนก็พุ่งเข้ามายังสำนักงานในพริบตา

แต่ละคนหน้าตาดุร้ายโฉดชั่ว

ฉินชิงตกใจจนแทบยืนไม่อยู่ โชคดีที่หลี่เฟิงประคองตัวเธอไว้ทัน

"เสิ่นเป้า แกทำภรรยาข้าตกใจหมดแล้ว!"

หลี่เฟิงมีจิตสังหารเกิดขึ้นที่หว่างคิ้ว

แต่ทว่า พี่เป้ากลับไม่รู้สึกตัวเลย พูดขึ้นอย่างเหี้ยมเกรียม "ตกใจแล้วทำไมกัน กล้ามาเล่นลิ้นกับสกุลเสิ่นอย่างข้า วันนี้พวกแกสองคนอย่าคิดว่าจะรอดออกไปได้เลย!"

สีหน้าอำมหิตของพี่เป้าจ้องเขม็งหลี่เฟิง สมุนนับสิบก็รอคำสั่งของพี่เป้า

ตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของพี่เป้าจู่ๆ ก็ดังขึ้น

พี่เป้าเหลือบมองไป สีหน้าเปลี่ยนทันควัน วิ่งไปรับโทรศัพท์ ทั้งเนื้อตัวดูว่าง่ายขึ้นราวกับสุนัขตัวหนึ่ง

"คุณชายสาม โทรมามีอะไรหรือครับ?"

"มีชายหญิงคู่หนึ่งไปทวงหนี้กับแกใช่ไหม หนึ่งในนั้นสกุลหลี่ด้วยใช่หรือเปล่า?"

  

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status