"สกุลหลี่?"พี่เป้ามองไปทางหลี่เฟิง ถามขึ้นอย่างสงสัย "มีคนชื่อหลี่เฟิงเข้ามาครับ ผมกำลังจะจัดการเขาพอดี"สายอีกฝั่งชะงักไป ได้ยินเสียงตุบหล่นลงมาพี่เป้ารีบร้อนถามขึ้น "คุณชายสาม คุณเป็นอะไรไป?"ครู่ต่อมา ก็มีเสียงคำรามกราดเกรี้ยวเหมือนฟ้าผ่าพุ่งเข้ามาในหูพี่เป้า"ชั้นทำไมน่ะหรือ? ไอ้สารเลวอย่างแกคิดจะฆ่าชั้นหรือไรกัน!""ชั้นจะบอกให้นะ! เขาให้แกทำอะไรแกก็ทำไป จัดการให้แบบเดียวกับศาลบรรพบุรุษเลยเข้าใจนะ!""พี่เป้าตกตะลึงไป กี่ปีแล้วนะที่เขาไม่เคยเห็นคุณชายสามเสียอาการขนาดนี้"เขาย้อนถามกลับไปด้วยสัญชาตญาณ "คุณชายสาม คุณจำอะไรผิดหรือเปล่า? เขาเป็นแค่ลูกเขยเข้าบ้านไม่ได้เรื่องของตระกูลฉินเท่านั้นเองนี่""เสิ่นเป้า แกอยากตายหรือไรกัน? ในสายตาเขา ชั้นกับแกก็แค่ต้นหญ้าริมทางเท่านั้น! เขาแค่เหยียบเบาๆ ก็ป่นกระดูกพวกเราทิ้งได้แล้ว!""คุณชายสาม...นี่มัน..."พี่เป้าฟังจนเหงื่อแตกพลั่ก"ชั้นจะกำชับครั้งสุดท้าย เขาเป็นตัวตนระดับที่ชั้นคุกเข่าก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ แกจัดการให้ดี"พูดจบ โทรศัพท์ก็วางลงดังโครมพี่เป้างงตาแตก ตอนตั้งสติกลับมาได้ ก็พบว่าตัวเองหลังชุ่มไปด้วยเหง
"เฮอะ" เสิ่นเทียนเม่ยหัวเราะเคืองๆ "เช่นนั้นชั้นก็อยากจะเห็นเสียจริง ไม่ต้องเอาไกลหรอก เอาแค่งานเลี้ยงของคุณชายโจวคืนนี้ นายรู้ไหมว่าอยู่ที่ไหน?""ตึกที่สามแห่งจิ่วฉงเทียน! สถานที่ที่คนไม่ได้เรื่องอย่างนายทั้งชีวิตนี้ก็ไปไม่ได้!"หลิ่วฮุ่ยฟางฟังแล้วตาเปล่งประกาย "ชั้นสามจิ่วฉงเทียน? นั่นอย่างน้อยต้องเป็นสมาชิกระดับโกลด์ถึงจะจองได้เลยนะ!"ที่เมืองหลัน จิ่วฉงเทียนเป็นร้านอาหารอับดับต้นแนวหน้าเลยทีเดียว สมาชิกระดับโกลด์ต้องมีการใช้จ่ายระดับสิบล้านขึ้นไปจึงจะสมัครสมาชิกได้ ในตระกูลฉิน มีแค่ผู้เฒ่าฉินเท่านั้นที่มีบัตรสมาชิกระดับโกลด์ส่วนที่สูงกว่าชั้นสาม การใช้จ่ายของสมาชิกก็ยิ่งตกตะลึงเกินจริงขึ้นไปอีก!เสิ่นเทียนเม่ยหันหน้าเหลือบมองหลี่เฟิงผาดหนึ่ง หัวเราะเอ่ยขึ้น "หลี่เฟิง นี่คือความแตกต่างของคุณชายโจวกับนาย ไม่รู้จริงๆ ว่านายเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงมายืนอยู่ข้างกายฉินชิง""เสี่ยวเฉินอย่าไปสนใจคนไม่ได้เรื่องนี่เลย เสี่ยวชิงลงมาแล้ว พวกเรารีบเดินทางดีกว่า อย่าให้คุณชายโจวต้องรอนาน!"หลิ่วฮุ่ยฟางไม่แม้แต่จะเหลือบมองหลี่เฟิงแลนด์โรเวอร์ขับออกไปอย่างวางก้าม ตอนนี้เองโทรศัพท์มือถือข
"พี่ใหญ่ของพี่เป้า นั่นไม่ใช่คุณชายสามหรอกหรือ?"เสิ่นเทียนเม่ยหัวเราะพรืดเอ่ยขึ้นว่า "หลี่เฟิง นายรู้ไหมว่าคุณชายสามเป็นตัวตนระดับไหน? นั่นมันคนใหญ่โตที่ถนัดเรื่องเส้นสายช่องทางเลยนะ ขนาดพ่อบุญธรรมชั้นยังต้องเรียกเคารพเรียกเขาว่าเจ้าพ่ออยู่เลย! แล้วนี่กล้ามาบอกว่าคุณชายสามมาขอขมานายหรือ อยากตายใช่หรือเปล่านายน่ะ?""เสิ่นเทียนเม่ย ถ้าเธอไม่เชื่อ เธอจะตามมาดูก็ได้นะ"หลี่เฟิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ผลคืถูกเสิ่นเทียนเม่ยมองบนใส่โจวไท่ตั้งตัวกลับมาได้จากอาการตกตะลึง หัวเราะเอ่ยขึ้นว่า "ชั้นคิดว่าเขาคงเห็นรถของคุณชายสามที่ประตู แล้วจงใจพูดขึ้นมาแน่ๆ โชคดีที่พวกเราไม่มีคนนอกอยู่ ไม่อย่างนั้นถ้าคำพูดนี้ตกไปถึงหูคุณชายสาม คงได้บ้านแตกล้มตายกันหมด"คนทั้งหมดผวากันขึ้นมา"ชั้นทนมาพอแล้ว!" หลิ่วฮุ่ยฟางตบโต๊ะ เอ่ยขึ้นอย่างโมโห "วันๆ เอาแต่แกล้งเป็นบ้าแกล้งโง่ ทำพวกเราขายหน้า แกรีบไสหัวไปเลย ถ้าไม่รีบไปชั้นจะตีแกให้ตายเลยคอยดู!""หลี่เฟิง เธอรีบไปเถอะ...เดี๋ยวชั้นกินข้าวเสร็จแล้วจะกลับไปนะ"ฉินชิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนอยากจะขุดหลุมหนีแล้ว ลุกขึ้นดันหลี่เฟิงออกไปหลี่เฟิงจำใจเอ่ยขึ้น "ถ้าอย่างน
เสิ่นเทียนเม่ยเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นไม่หยุด อยากจะรู้จักความสง่างามของคนใหญ่โตคนนั้นเสียหน่อย"ฉินชิง อีกเดี๋ยวพวกเราไปดูที่ลิฟท์กันหน่อยไหม?"เสิ่นเทียนเม่ยดึงเสื้อฉินชิงแล้วพูดขึ้นมา"ไม่เอาดีกว่า อีกเดี๋ยวชั้นต้องกลับบ้านกับหลี่เฟิง..."ดื่มเหล้าไปแก้วเดียว ฉินชิงเองก็คอไม่ค่อยแข็ง ใบหน้าแดงก่ำเสิ่นเทียนเม่ยเอ่ยเตือนอย่างหวังดี "เฮ้อ เธอจะไปคิดถึงเจ้าคนบ้าหลี่เฟิงทำไมกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากนะ ถ้าเราสร้างความประทับใจกับคนใหญ่โตได้ ครอบครัวของพวกเธอยังต้องมานั่งกังวลเรื่องหนี้นั่นอีกหรือ?""ถ้า...ถ้าอย่างนั้นก็ได้"เพียงไม่นาน เกาเฟยก็รับโทรศัพท์สายหนึ่งคนทั้งหมดกลั้นหายใจเพ่งสมาธิหรือว่าคนใหญ่โตคนนั้นจะลงมาแล้ว?ครู่ต่อมา เกาเฟยก็วางสายลงอย่างจำใจ "พ่อผมโทรมาบอกว่างานเลี้ยงจบไปแล้ว คนใหญ่โตคนนั้นออกไปก่อนล่วงหน้า""เฮ้อ โชคไม่ดีเอาเสียเลย ไม่ได้เห็นความสง่างามของคนใหญ่โตนั่นเสียแล้ว..."ทุกคนเสียดายขึ้นมา"คุณภรรยา กินข้าวเสร็จแล้วหรือยัง?"ตอนนี้เอง หลี่เฟิงจู่ๆ ก็เดินเข้ามา"หลี่เฟิงนี่นายยังกล้ามาอีกหรือ? ไสหัวไป!"เสิ่นเทียนเม่ยที่ยังดิ่งอยู่ในอากา
เสิ่นเทียนเม่ยร้องเชอะโจวไท่หรี่ตา จู่ๆ ก็พยักหน้า หัวเราะเย้ยหยันเอ่ยขึ้น "ใช้ได้นี่หลี่เฟิง เช่นนั้นแกก็จัดเลย ถึงตอนนั้นก็ให้ชั้นได้เปิดโลกหน่อย"เขาขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับคนไม่ได้เรื่องถึงอย่างไรด้วยกำลังทรัพย์ของเขา แค่เขาคิด ทุกวันก็ทำให้ฉินชิงเจิดจ้ามีความสุขได้อยู่แล้วครั้งนี้ ให้หลี่เฟิงทำมันพังหน่อยก็ดีเหมือนกันถ้าไม่มีการขับเด่นจากคนไม่ได้เรื่อง แล้วจะแสดงความยอดเยี่ยมของเขาออกมาได้อย่างไร?หลิ่วฮุ่ยฟางไม่สนใจหลี่เฟิง ถามขึ้นว่า "เสี่ยวโจว จะเชิญพี่เป้ามาร่วมงานวันเกิดเสี่ยวชิงได้ไหม ขอบคุณที่เขาคืนเงินให้"รอยยิ้มโจวไท่แข็งทื่อไปเขาวันนี้โทรศัพท์หาพี่เป้า อีกฝ่าด่าเขามาสองคำก็วางสายทิ้งอย่างเหลืออด คิดไม่ถึงว่าต่อมาดันคืนเงินให้ นี่มันเซอร์ไพรซ์จริงๆเชิญอีกฝ่ายมาร่วมงานวันเกิดฉินชิงหรือ?เขาไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะหน้าใหญ่ได้ขนาดนั้นแต่พอหันไปเห็นหลี่เฟิงที่ทำหน้าเหมือนยิ้มไม่ยิ้ม เขาก็ตัดสินใจพูดขึ้นว่า "คุณน้าวางใจได้เลย ผมจะโทรหาพี่เป้า เขาต้องตอบรับแน่ๆ"พูดจบ เขาก็ล้วงโทรศัพท์ กดโทรไปด้วยใจตุ้มต่อม"ฮัลโหล พี่เป้า อีกสามวันจะเป็นวันเกิดคุณหนู
อะไรนะ!ทวงมาได้แล้วหรือ?!เป็นไปได้อย่างไร! ไม่ใช่ว่าพี่เป้าเดือดดาลมากหรอกหรือพวกของฉินหลันก็ตกตะลึงไป กระทั่งผู้เฒ่าฉินยังแข็งทื่ออยู่กับที่ จากนั้นจึงแคะหูขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว ถามขึ้นว่า "พวก...พวกแกทวงมาได้แล้วหรือ?"ฉินชิงพยักหน้า ส่งเช็คบัญชีออกไปอย่างนอบน้อม"คุณปู่ นี่คือเช็คค่ะ คุณปู่ลองดู"ผู้เฒ่าฉินเลิกเปิดดูหลายครั้ง ถอนหายใจโล่งออกมา พยักหน้า "เป็นเชคของบริษัทพี่เป้าจริงๆ"สีหน้าตึงเครียดของคนตระกูลฉินจึงผ่อนคลายลงมาทวงบัญชีมาได้แล้ว ดูท่าพี่เป้าคงจะไม่ได้โกรธเคืองจริงๆ ตระกูลฉินไม่เป็นไรแล้วสินะ"เฮอะ พวกแกคิดว่าพวกแกทวงกลับมาได้ด้วยตัวเองหรือไรกัน? ฝันไปเถอะ!" ตอนนี้เอง ฉินหลันจึงร้องเชอะเย็นชาขึ้นมา "ถ้าไม่ใช่เพราะชั้นโดนพี่เป้าตบไป เขาจะคืนบัญชีมาให้พวกแกได้อย่างไรกัน!""พี่เป้าเพื่อจะชดเชยให้ชั้น ถึงได้เอาบัญชีคืนมาให้พวกแกแน่ๆ"หลังจากคนตระกูลฉินได้ยิน ก็พยักหน้าเห็นด้วยฉินหลันซื้อรถแล้วถูกตีอย่างไร้เหตุผล พี่เป้าเพื่อชดใช้จึงจ่ายหนี้นี้คืนให้ตระกูลฉิน ก็สมเหตุสมผลดีตอนนี้ ฉินชิงลนลานขึ้นมา ฉินหลันพลิกดำให้เป็นขาวเสียอย่างนั้น ทำได้เพียงมองไปทางผู้เฒ่
"ยังจะเสแสร้งอีก คนบ้าอย่างนายจะเอาเงินจากไหนมาซื้อดวงใจเทพธิดากัน"ฉินหลันพูดพลางอวดเชิดใส่ฉินชิง "หวา ถึงตอนนั้นชั้นสวมดวงใจเทพธิดาจัดงานฉลองวันเกิด จากนั้นก็สวมมันไปเซ็นสัญญากับเทียนเฟิงกรุ๊ป นี่คงจะมีความสุขมากเลย..."ฉินไห่ก็ยิ่งเข้ามาประจบประแจง "น้องสาว ถึงตอนนั้นน้องก็จะกลายเป็นหญิงสาวที่เจิดจ้าที่สุดของเมืองหลัน! ส่วนใครบางคน แค่มายกรองเท้าให้น้องก็ยังไม่คู่ควรเลย"คนทั้งหมดอิจฉาตาร้อน สมแล้วที่เป็นคุณชายฟาง ดวงใจเทพธิดาราคานับสิบล้านบอกจะยกก็ยกให้ได้ดูอำนาจเหลือล้นเสียจริง!หลี่เฟิงแค่รู้สึกว่าความอดทนของตนเองใช้ไปหมดแล้ว กำหมัดเดินขึ้นหน้า แต่กลับถูกฉินชิงกอดเอาไว้"หลี่เฟิง เธอใจเย็นก่อน!""หวาๆๆ แกดูสีหน้าเจ้าบ้านี่สิ คิดจะตบตีกันหรือ?" ฉินหลันจงใจทำเสียงหวาดกลัว"กล้าตีก็เข้ามา พรุ่งนี้ชั้นจะให้คุณปู่ขับแกออกจากตระกูลฉินไปเลย!""จะกบฏหรือ เป็นแค่คนบ้ายังคิดจะตบตีคน!"คนตระกูลฉินไม่น้อยลุกขึ้นช่วยพูดฉินไห่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นเอ่ยคุกคาม "แกกล้าแตะน้องสาวใช้หรือ? แกเชื่อไหม แค่ชั้นโทรไปก็ทำให้บริษัทเน่าๆ ของฉินชิงถูกตรวจสอบอายัดได้เลย!"หลี่เฟิงมองเขาเย็นชา เอ่
เสี่ยวเฉินรับไปอย่างสงสัย "คุณหลี่ นี่มันใช่การ์ดของธนาคารเราไหม ทำไมถึงไม่เคยเห็นสีดำแบบนี้มาก่อนเลย?"ฉินหลันทั้งสองคนทำธุระเสร็จ พอได้ยินคำพูดนี้ก็หันกลับมา เหลือบมองบัตรธนาคารในมือหลี่เฟิง"ฮ่าๆ หลี่เฟิงเจ้าขยะ หยิบการ์ดปลอมมาทำธุรกรรมหรือ อยากตายหรือไงกัน!"ฉินหลันหัวเราะขึ้นมา ฟางจื่อหานเองก็หัวเราะเหยียดหยามขึ้นบ้าง บอกกับผู้จัดการอู๋ว่า "ชั้นทนดูต่อไม่ไหวแล้ว รีบไล่เจ้าพวกโง่นี้ออกไป!""โอ้ได้เลย ชั้นจะไล่ให้เดี๋ยวนี้..."ผู้จัดการอู๋รีบพยักหน้า สายตาจ้องอยู่บนแบล็คการ์ดในมือหลี่เฟิง พูดไปแค่ครึ่งเดียวก็ชักหยุดลงสีหน้าของเธอจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปมา จากนั้นก็ขึ้นไปแย่งแบล็คการ์ดในมือหลี่เฟิง"เสี่ยวเฉินคอยดูไว้ก่อน เดี๋ยวชั้นจะขึ้นไปรายงานท่านประธาน!"ผู้จัดการอู๋หยิบการ์ดพลิกไปพลิกมาหลายรอบ จากนั้นก็วิ่งขึ้นชั้นบนไปอย่างไม่เหลียวหลังฉินหลันเดินเข้ามา "ฉินชิง รู้ไหมว่าใช้บัตรธนาคารปลอมมันผิดกฏหมาย พวกแกนี่มันรนหาที่ตายจริงๆ!"ฉินชิงตกใจจนหน้าเขียว มือเท้าเย็นไปหมดฉินหลันยังรู้สึกสะใจสมน้ำหน้า "เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ต้องไปขอข้าวแล้ว ประเทศชาติจะดูแลการกินการอยู่พวกแกเอง!"พอเพ